ขายหินธรรมชาติเจริญกรุง

หมวดหมู่สินค้า: ขายหินธรรมชาติ
STD Serve ร้านขายหินธรรมชาติ ราคาถูก รับประกันคุณภาพทั่วจังหวัด ร้านขายหินธรรมชาติ จำหน่าย ขายส่ง ขายปลีก หินธรรมชาติ หินตกแต่งสวน หินกาบ หินมอส หินฟองน้ำ หินกรวด หินน้ำตก หินประดับสวนโต๊ะหินธรรมชาติ หินแปรรูป หินลูกหมุน หินแผ่น อ่างหิน ป้ายหินธรรมชาติ หินฟันม้า หินพื้นผิวพิเศษ หินลูกเต๋า หินอ่อน หินแกรนิต หินกรวด หินทายแดง หินกาบม่านน้ำตก หินทราย หินกระเบื้อง กรวดล้าง ทรายล้าง หินภูเขา หินศิลาแลง รับประกันงาน ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ในราคาถูกที่เป็นกันเอง

13 มีนาคม 2566

ผู้ชม 15 ผู้ชม

ร้านขายหินธรรมชาติเจริญกรุง

กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหิน
                กระบวนการเปลี่ยนแปลงของหินในธรรมชาติ  โดยการผุพังอยู่กับที่และการกร่อนทำให้หินมีขนาดเล็กลง จนเป็นส่วนประกอบของหินกระบวนการผุพัง เป็นกระบวนการที่หินเกิดการแตกหัก และสลายตัวจากการกระทำของน้ำ ลม อุณหภูมิ พืช สัตว์ และน้ำแข็ง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงขนาดและองค์ประกอบทางเคมี ทำให้เกิดตะกอนขนาดแตกต่างกันไป
            
1. กระบวนการผุพัง ปัจจัยที่ทำให้หินเกิดการผุพัง ได้แก่  กระแสน้ำ ทำให้หินมีขนาดเล็กลง รูปร่างกลมมนขึ้น  กระแสลมพัด ทำให้พื้นผิวของหินเกิดการเสียดสีกับตะกอนขนาดเล็ก หินจึงเกิด การผุพังสลายเล็กลง  การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เมื่อพื้นผิวของหินได้รับความร้อนจะเกิดการขยายตัว และหดตัวลงเมื่อเวลากลางคืนได้ไม่เท่ากัน ทำให้หินเกิดรอยร้าว  แรงดันของรากไม้ ทำให้ช่องหินกว้างขึ้น เกิดการแตกของหิน แรงดันเนื่องจากการขยายตัวของน้ำแข็ง น้ำที่แทรกอยู่ในรอยแยกของหิน เมื่อกลายเป็นน้ำแข็งจะเกิดการขยายตัวทำให้รอยแตกกว้างขึ้น การเกิดปฏิริยาเคมี น้ำฝนที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นตัวการในการละลายแร่บางชนิดที่อยู่ในหิน ทำให้หินเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่  การเคลื่อนที่ของธารน้ำแข็ง ทำให้หินที่อยู่บริเวณธารน้ำแข็งเกิดการแตกออกจนเป็นร่องลึก
 
2. กระบวนการกร่อนป็นกระบวนการที่ตะกอนที่เกิดจากการผุพังของหินถูกพัดพาจากที่หนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง เกิดจากการกระทำของน้ำและลมทำให้เปลือกโลกหลุด ละลายไป หรือกร่อนไป โดยมีการเคลื่อนที่กระจัดกระจายไปจากที่เดิม  โดยมีต้นเหตุคือตัวการธรรมชาติ ซึ่งได้แก่ ลมฟ้าอากาศ กระแสน้ำ ธารน้ำแข็ง การครูดถู ภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วง
 
3. การพัดพา ( Transportation) หมายถึง การเคลื่อนที่ของมวลหิน ดิน ทราย โดยกระแสน้ำ กระแสลม หรือธารน้ำแข็ง ภายใต้แรงดึงดูดของโลก อนุภาคขนาดเล็กจะถูกพัดพาให้เคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าอนุภาคขนาดใหญ่  
4. การทับถม (Deposit) เกิดขึ้นเมื่อตัวกลางซึ่งทำให้เกิดการพัดพา เช่น กระแสน้ำ กระแสลม หรือธารน้ำแข็ง อ่อนกำลังลงและยุติลง ตะกอนที่ถูกพัดพาจะสะสมตัวทับถมกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ ความกดดัน ปฏิกิริยาเคมี และเกิดการตกผลึก หินตะกอนที่อยู่ชั้นล่างจะมีความหนาแน่นสูงและมีเนื้อละเอียดกว่าชั้นบน เนื่องจากแรงกดดันซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำหนักตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ 
 
5. การกลับคืนเป็นหิน (Lithification) เมื่อเศษตะกอนทับถมกันจะเกิดโพรงขึ้นประมาณ 20 – 40% ของเนื้อตะกอน น้ำพาสารละลายเข้ามาแทนที่อากาศในโพรง เมื่อเกิดการทับถมกันจนมีน้ำหนักมากขึ้น เนื้อตะกอนจะถูกทำให้เรียงชิดติดกันทำให้โพรงจะมีขนาดเล็กลง จนน้ำที่เคยมีอยู่ถูกขับไล่ออกไป สารที่ตกค้างอยู่ทำหน้าที่เป็นซีเมนต์เชื่อมตะกอนเข้าด้วยกันกลับเป็นหินอีกครั้ง
หินและแร่กับชีวิตประจำวัน
 
 
ทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรานั้นมีประโยชน์แก่เราทั้งสิ้นไม่ทางตรงก็ทางอ้อมดังเช่น หินและแร่ที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติประเภทหนึ่งซึ่งมีคุณค่าและมีประโยชน์มากมาย มนุษย์เราพบและนำหินและแร่มาใช้ประโยชน์กันตั้งแต่สมัยยุคหินที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ในถ้ำ โดยการใช้ขวานหินเป็นอาวุธในการล่าสัตว์และใช้เป็นอาวุธในการป้องกันตัว ต่อมาก็รู้จักการใช้โลหะบางชนิดมาดัดแปลงเป็นอาวุธและเครื่องใช้ต่าง ๆ แล้วพัฒนาการใช้ประโยชน์จากหินและแร่เรื่อยมาจากยุคหินจนถึงยุคปัจจุบัน หลังจากยุคนี้ไปก็มีแนวโน้มว่าการใช้ประโยชน์จากหินและแร่จะทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ดังนั้นการผลิตหรือการแปรรูปหินและแร่ให้เป็นวัตถุดิบหรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการก็เป็นสิ่งที่ทำกันได้สะดวกและง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
ถ้าเราสำรวจสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบ้านก็จะพบว่ามีผลิตภัณฑ์หรือสิ่งของเครื่องใช้รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเรา ที่เราได้เจอ ได้สัมผัสและได้ใช้ประโยชน์กันอยู่ทุกวัน ซึ่งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีหินและแร่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตทั้งสิ้น หลายคนคิดว่าถ้าพูดถึงเรื่องหินและแร่ จะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว และคิดว่าหินและแร่หรือแหล่งแร่นั้นจะต้องอยู่ตามเหมืองแร่หรืออยู่ตามภูเขาต่าง ๆ แต่จริง ๆ แล้ว เราได้สัมผัสหรือได้ใช้ประโยชน์จากหินและแร่เป็นประจำกันทุกวัน ซึ่งก่อนที่จะนำหินและแร่มาใช้ประโยชน์ได้ก็ต้องนำหินและแร่นั้นไปแปรรูป ซึ่งต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย จนหินและแร่นั้นกลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือเป็นวัตถุดิบพร้อมใช้เพื่อป้อนเข้าโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
 
 กำแพงห้องหรืออาคารที่ก่อสร้างมาจากปูนซีเมนต์
 
การดำเนินชีวิตของเราตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงเวลาเข้านอนก็ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับหินและแร่ทั้งสิ้นเช่น ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเราก็จะมองเห็นฝ้าเพดาน ซึ่งผลิตมาจากแร่ยิปซัม มองไปรอบ ๆ ห้องก็จะเห็นกำแพงห้องที่ก่อสร้างมาจากปูนซีเมนต์ ซึ่งผลิตมาจากหินปูนที่ประกอบด้วยแร่แคลไซต์เป็นหลัก เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างก็จะพบอ่างล้างหน้าเซรามิก ซึ่งผลิตมาจากแร่ดิน แร่เฟลด์สปาร์และทราย ถ้ามองลงไปที่พื้นกระเบื้องห้องน้ำที่บางสถานที่ก็จะปูด้วยหินอ่อนหรือหินแกรนิต ซึ่งภายในเนื้อกระเบื้องจะมีลายสวย ๆ และสีแปลก ๆ ลายและสีที่เราเห็นในเนื้อหิน ก็คือลายและสีของแร่ประกอบหินชนิดต่างๆ นั่นเอง กำแพงห้องหรืออาคารที่ก่อสร้างมาจากปูนซีเมนต์
 
 ฝ้าเพดานซึ่งผลิตมาจากแร่ยิปซัม
 
 อ่างล้างหน้าเซรามิก ซึ่งผลิตมาจากแร่ดินแร่เฟลด์สปาร์และทราย
 
แป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งซึ่งผลิตมาจากแร่ทัลก์
ขณะที่เราอาบน้ำ หินถูตัวที่เราใช้บางครั้งก็เป็นหินภูเขาไฟ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูพรุน ที่เรียกว่า หินพัมมิซ จะใช้ยาสีฟันเพื่อแปรงฟัน ยาสีฟันนั้นก็ผลิตมาจากแร่แคลไซต์ที่บดให้เป็นผงละเอียดผสมกับแร่ฟลูออไรต์ หรือถ้าจะซักผ้าก็จะต้องใช้ผงซักฟอก ซึ่งผงซักฟอกนั้นส่วนหนึ่งก็ผลิตมาจากแร่ซีโอไลต์ ซึ่งมีสมบัติในการดูดซับตะกอน หรือถ้าจะหวีผมหรือแต่งหน้าก็ต้องส่องกระจก กระจกนั้นก็ผลิตมาจากทรายแก้ว แร่โดโลไมต์และหินปูน หรือแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งที่เราใช้ก็จะผลิตมาจากแร่ทัลก์ ซึ่งมีลักษณะอ่อน มีค่าความแข็งเท่ากับ 1 เท่านั้น
ถ้าเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ แป้งดินสอพองที่เอาไว้ทาหน้าก็ผลิตมาจากดินมาร์ล ซึ่งก็เป็นดินที่มีต้นกำเนิดมาจากหินปูนและมีดินเหนียวปนอยู่ เตารีดที่เราใช้นั้นเป็นเตาไฟฟ้าที่ทำจากเหล็กกล้า ส่วนมากเป็นเหล็กกล้าไร้สนิม ตัวฉนวนของเตารีดที่รองระหว่างขดลวดต้านทานกับตัวเรือนที่มีลักษณะเหมือนกระดาษอัดแข็งก็ทำมาจากแร่ใยหิน นอกจากนั้นเครื่องประดับที่เราสวมใส่ก็มีอยู่มากมายหลายแบบ มีทั้งที่ทำมาจากเพชร พลอยตระกูลแร่คอรันดัม โกเมนหรือการ์เนต พลอยตระกูลควอตซ์ โอพอล เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือแร่รัตนชาตินั่นเอง
  เครื่องประดับที่ทำมาจากแร่ชนิดต่างๆ
ถ้าเราจะรับประทานอาหารเช้า ก็ต้องเข้าห้องครัวเพื่อประกอบอาหาร เครื่องครัวส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะสแตนเลสที่ไม่เป็นสนิม ถ้วยชามเซรามิกต่างๆ ก็ทำมาจากแร่ดิน หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วบางครั้งหลายท่านต้องทานยา ยาบางชนิดก็มีแร่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย เช่น ยาแก้ภูมิแพ้ ซึ่งจะมีส่วนผสมของสังกะสีออกไซด์ และถ้าต้องการจะตำน้ำพริก ก็ต้องใช้ครกหิน เนื้อของครกหินก็จะมีแร่เป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น ซึ่งจะมีความแข็งแรง ทนทานและให้ลวดลายที่สวยงามแตกต่างกันออกไปตามชนิดของหินที่นำมาทำครกหินนั้นๆ  
 
 
  ถ้วยชามและแก้วน้ำเซรามิกที่ทำมาจากแร่ดิน ร้านขายหินธรรมชาติ
 ครกหินที่มีแร่เป็นส่วนประกอบ
จากที่กล่าวมาเป็นแค่ประโยชน์ส่วนหนึ่งของหินและแร่เท่านั้น ประโยชน์ของหินและแร่ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีอีกมากมายหลายประการ เราจะเห็นว่าหินและแร่นั้นเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศ คุณค่าและประโยชน์ของหินและแร่นั้นมีอยู่มากมายมหาศาล ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากหินและแร่เราจึงต้องใช้กันอย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เพราะว่าทรัพยากรหินและแร่เป็นทรัพยากรประเภทที่ใช้แล้วหมดไป และยังเป็นทรัพยากรประเภทที่ไม่สามารถทำให้เกิดใหม่ได้ในช่วงอายุของเราหรือแค่ประมาณร้อยหรือสองร้อยปี เพราะหินและแร่บางชนิดต้องอาศัยกระบวนการเกิดนับร้อย นับพัน นับล้านปี แต่ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากหินและแร่ เราใช้กันอย่างรวดเร็วและทวีคูณมากขึ้น เรื่อย ๆ แน่นอนว่าไม่นานทรัพยากรหินและแร่บนโลกของเราก็จะต้องหมดไป และต้องหาพลังงานหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ มาทดแทน ซึ่งก็จะเป็นปัญหาให้ต้องแก้ไขกันต่อไปอีกอย่างไม่รู้จบสิ้น
 
ขายหินธรรมชาติถนนเจริญกรุง
Engine by shopup.com