TH 
ตกแต่งบ้านภายใน
หมวดหมู่สินค้า: ช่างตกแต่งภายใน
STD House ช่างตกแต่งภายใน
ราคาถูก รับประกันคุณภาพทั่วจังหวัด
ช่างตกแต่งภายใน รับติดตั้ง ซ่อมแซม ออกแบบ ผลิตงานบิ้วอินตกแต่งภายใน งานตกแต่งภายใน ทุกรูปแบบ ศูนย์รวมสินค้างานช่างตกแต่งภายใน ดำเนินงานโดยทีมวิศวะกรและช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง ออกแบบให้คำแนะนำงาน ตกแต่งภายใน ตกแต่งภายในบ้าน รับบิ้วอินบ้าน ตกแต่งคอนโด บิ้วอินคอนโด รับเหมาบิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมถึงดูแล ซ่อมแซม ประเมินราคา ตามงบประมาณ รับประกันงานติดตั้ง ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ ในราคาถูกที่เป็นกันเอง
24 สิงหาคม 2566
ผู้ชม 58 ผู้ชม
ช่างตกแต่งภายในบ้าน
STD House ช่างตกแต่งภายใน ราคาถูก รับประกันคุณภาพทั่วจังหวัด
รับติดตั้ง ซ่อมแซม ออกแบบ ผลิตงานบิ้วอินตกแต่งภายใน งานตกแต่งภายใน ทุกรูปแบบ ศูนย์รวมสินค้างานช่างตกแต่งภายใน ช่างตกแต่งภายใน
รู้จักเรา STD House ตกแต่งภายใน
- ทีมช่างมีประสบการณ์ตรงด้านงานช่างตกแต่งภายในมากกว่า 20 ปี
- เดินทางวัดหน้างานฟรีทั่วจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้รับ งานที่ตรงความต้องการก่อนตัดสินใจ
- รับซ่อมแซมงานช่างตกแต่งภายในทุกรูปแบบ
- ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทาน
- ราคาถูก รับประกันคุณภาพ พร้อมการบริการหลังการขาย
- บริการคุณภาพด้วย STD House ช่างตกแต่งภายใน
ช่างตกแต่งภายในบ้าน
20 ไอเดีย แต่งบ้าน สวย เก๋ในสไตล์ต่างๆ
1. การตกแต่งบ้านแบบ Classic Style – คลาสสิค สไตล์
ขอเริ่มกันที่แบบแรก จัดเต็มกับห้องนอนแนวคลาสสิค ตัวโครงสร้างของบ้านเน้นใช้เป็นวัสดุธรรมชาติมาสรรค์สร้างให้ลงตัวทั้งปูนดิบ อิฐมอญแดง งานเหล็กและรวมไปถึงโครงสร้างไม้ พอทุกอย่างมารวมกันก็ดูลงตัว พร้อมทั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นงานเก่าเก็บทำให้ห้องนี้คลาสสิคสวยงามอย่างไร้ที่ติ
ส่วนของแต่งชิ้นใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้อีกอย่างก็คงหนีไม่พ้นตัว ผ้าม่าน (Curtain) นั้นเอง เพราะที่นี่บานหน้าต่างค่อนข้างกว้าง การเลือกสีผ้าจึงมีผลต่อภาพรวมของการตกแต่งในห้อง ที่เราเลือกเป็นผ้าสีน้ำเงินเพราะเวลาอยู่คู่กับสีของไม้และไฟดาวไลท์ สีส้ม ทำให้ทุกอย่างดูลงตัวไม่กลืนกันทำให้ทุกอย่างในห้องสมูท
2. การตกแต่งบ้านแบบ Contemporary Style – คอนเทมโพรารี่ สไตล์
บ้านหลังที่ 2 เน้นอบอุ่นสไตล์ Contemporary โดยมิกซ์การใช้งานตั้งแต่ผ้าม่านและมู่ลี่ให้มาอยู่ด้วยกันแต่แบ่งโซนการใช้งานแบบลงตัว
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็เน้นแนวงานไม้เรียบง่ายมาพร้อมโซฟาผ้าโทนสี Earth Tone แต่ใช้โซฟาผ้าก็ต้องหมั่นดูแลกันนิดนึงเพราะเลอะเร็วงานนี้อาจต้องพึ่ง
3. การตกแต่งบ้านแบบ Modern Style – โมเดิร์น สไตล์
แน่นอนค่ะว่าแบบที่ 3 เป็น 1 ใน 5 สไตล์การตกแต่งบ้านยอดนิยม ที่แต่งง่าย ซึ่งหลังนี้ก็เช่นกันจัดหนักด้วยการตกแต่งแนว โมเดิร์น ลงของทุกอย่างแบบคลุมโทนทั้งหมด ตั้งแต่สีของโซฟา และผ้าม่าน
แต่ถ้าใช้สีเทาทั้งหมดทุกอย่างก็จะดูจืดจนหาความเด่นอะไรไม่ได้สักอย่าง มุมทีวีเลยจัดเป็นไซด์บอร์ดไม้สีอ่อนที่มาพร้อมโต๊ะกลางและพรมเพื่อความโดดเด่นแต่ถ้าเพื่อนๆอยากได้พรมสีอื่นก็ลองตามไปดู
4. การตกแต่งบ้านแบบ Modern luxury Style – โมเดิร์น สไตล์
สำหรับเพื่อนคนไหนที่ยังอยากให้ห้องดูทันสมัยไม่ตกยุค แต่ก็อยากเพิ่มความหรูหรา ให้ดูดีมีระดับเพราะซื้อคอนโดมาแพงก็ต้องลองตกแต่งแนว Modern luxury Style – โมเดิร์น สไตล์ เพราะตอบโจทย์แน่นอน ซึ่งการแต่งแนวนี้สามารถปรับโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย เช่น ขาวดำเทา หรือโทนสีสว่างเหมือนในภาพก็ได้ค่ะ
5. การตกแต่งบ้านแบบ Loft Style – ลอฟท์ สไตล์
งานดิบสาย Loft ต้องยกให้หลังนี้เลยจ้า เพราะทุกอย่างตั้งใจปั้นแต่งให้ออกมาแบบต้นฉบับของคำว่า Loft จริงๆ ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งแต่ทุกผนังจะกรุด้วยอิฐมอญแดง บางจุดก็ใช้เป็นปูนเปลือย บานหน้าต่างก็ไม่ปล่อยให้ว่างจัด มู่ลี่ (Aluminum Blinds) สีดำด้านไปใส่ให้แสงจากภายนอกที่เข้ามาดู Soft มากขึ้นค่ะ
ส่วนฝ้าด้านบนถูกเปลี่ยนเป็นการวางคานปูนพร้อมเดินท่อไฟทั้งหมด แต่หากเพื่อนๆท่านใดไม่อยากทำไฟแบบเดินท่อทำรางก็สามารถไปหาซื้อ หลอดไฟ Style Loft สุดฮิต! มาแขวนแทนได้เลยค่ะ เหมาะสำหรับคนต้องการความสะดวกสบายเป็นที่สุด
6. การตกแต่งบ้านแบบ Nature style – เนเชอรัลสไตล์
สำหรับห้องนี้ต้องบอกเลยว่าเน้นความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ เพราะทุกอย่างที่รวมในห้องนี้ล้วนทำจากวัสดุไม้เป็นหลัก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ คือ การหยิบเอาวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ในงานตกแต่ง เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สามารถทำให้บ้านสวย และอบอุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานจากงานไม้ ชั้นวางของ รวมถึงเจ้าตัว มู่ลี่ไม้ (Venetian Wooden Blinds) ส่วนโครงโซฟาก็จะทำจากไม้แล้วหุ้มด้วยผ้าสีเข้ม หมอนอิงใช้เป็นผ้าทอมือจากวิถีของชาวบ้าน แถมพื้นยังเป็นลามิเนตลายไม้อีกแค่นี้บรรยากาศในบ้านก็ดูจัดเต็มตามสไตล์เนเชอรัลกันแล้วค่ะ
7. การตกแต่งบ้านแบบ Monotone Style – สไตล์โมโนโทน
สไตล์นี้จะเป็นการตกแต่งเพื่อรักษาอารมณ์ความต่อเนื่อง และบรรยากาศโดยรวมของบ้าน โดยสีที่ใช้จึงมีความใกล้เคียงกันและคุมโทน
8. การตกแต่งบ้านแบบ Minimal Style – มินิมอล สไตล์
แนวคิดหลักของ มินิมอล สไตล์ ต้องยกให้บ้านหลังนี้เลยค่ะ คือความเรียบง่าย สะดวกสบาย มีการตกแต่งเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่รวมๆ แล้วจะต้องออกมาดูดีมีสไตล์ ตามปรัชญาแนวคิดที่ว่า “Less is More” แปลว่า “น้อยแต่มากด้วยประโยชน์” จริงๆ
แต่ถ้าในบ้านอยากเพิ่มสีสันให้กับการตกแต่งสไตล์นี้อาจมองหา วอลเปเปอร์ (Wallpaper) สีพื้นโทนพาสเทลเบาๆมาแต่งผนังเพิ่มเติมกันดูได้ค่ะ แต่ถ้าอยากจัดหนักก็มุ่งสู่ Top 10 ร้านเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ย่านจตุจักร มาตกแต่งเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ
9. การตกแต่งบ้านแบบ Tropical Style - สไตล์ทรอปิคอล
สไตล์นี้จะมีความใกล้เคียงกับ Nature style แต่จะเป็นการประยุกต์การตกแต่งให้เข้ากับประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น ด้วยรูปแบบที่ให้ความรู้สึกของความอบอุ่น พักร้อน ส่วนการเลือกใช้ของตกแต่งก็จะเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เพื่อให้ดูผ่อนคลาย
สไตล์ Tropical จึงนิยมนำมาใช้ในการออกแบบตกแต่งบ้านพักตากอากาศ ตกแต่งรีสอร์ท ส่วนการเลือกใช้สี จะเลือกใช้สีแบบเอิร์ทโทน ที่มีความสว่างสดใส ส่วนรอบๆบ้านถ้าจะแต่งแล้วให้ถึงก็ต้องเสริมด้วย 7 พันธุ์ไม้ ยอดนิยมปลูกจัดแต่งสวนหน้าบ้าน จะได้ดูเป็น Tropical ที่ร่มรื่นฉบับสมบูรณ์
10. การตกแต่งบ้านแบบ Oriental Style – โอเรียนทัล สไตล์
สำหรับสไตล์นี้ จะเน้นเป็นการตกแต่งที่สื่อถึงวัฒนธรรม ถ่ายทอดผ่านงานศิลปะลงบนเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งต่างๆ ตามความเชื่อของวัฒนธรรมนั้นๆ เช่น ฮวงจุ้ย คติความเชื่อ
แต่ตัวบ้านภายนอกอาจทำให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้ และความเป็น โอเรียนทัล สไตล์ ถึงจะปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ แต่ก็ต้องไม่ลืมแนวทาง คติความเชื่อแบบชาวตะวันออกที่สืบทอดสไตล์นี้กันมา
11. การตกแต่งบ้านแบบ Vintage Style – วินเทจ สไตล์
Vintage Style (วินเทจ สไตล์) เป็นอีกสไตล์การตกแต่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบกลิ่นอายและหลงใหลแฟชั่นในยุคก่อน ซึ่งการแต่งอย่างบ้านหลังนี้ก็จะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอ่อน ส่วน ผ้าม่าน (Curtain) พวกเรา Infinity Design ผ้าม่าน ก็แนะนำให้ใช้เป็นสีฟ้ามีลายในตัวเพื่อให้ดูสบายน่าพักผ่อน
ส่วนผนังรอบๆห้องทาสีขาวครีม ทำให้ได้ความลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ แต่ถ้าใครถือเคล็ดก็ลองปรับสีห้องตาม ฮวงจุ้ยสีทาบ้าน ตามวันเกิด เสริมสิริมงคล ถูกโฉลกผู้อยู่อาศัย ใครชอบแบบนี้ก็อย่าพลาดนำไปปรับใช้กันนะคะ
12. การตกแต่งบ้านแบบ Luxury Style – ลักซูรี่ สไตล์
มาถึงงานหรูดูแพงกันบ้างค่ะ ซึ่งปกติการแต่งเรียบหรูก็จะเน้นใช้โทนสีทอง ขาว หรือสีครีมแต่สำหรับบ้านหลังนี้ของลงเข้มปิดดำทั้งหมดหรูหราแบบมาเฟียไปอีก แต่ถ้าดูให้ดีหัวเตียงก็จัดเด่นตั้งแต่เสริมด้วยวอลล์ลาย Versace สีดำสลับทอง เตียงไม้สีดำยกสูงพร้อมที่นอนหนานุ่ม
ส่วนปลายเตียงตกแต่งด้วยหีบสุดหรู 2 ใบจัดไว้สำหรับวางดอกไม้ให้ดูสวยดุแต่มีความหวานละมุนอยู่ในตัว ส่วนผนังรอบห้องก็จัดเป็นวอลล์ลายปูนขัดผสมควา
13.การตกแต่งบ้านแบบ English country – อิงลิช คันทรี
หันมาผ่อนคลายกับบรรยากาศเบาๆกันบ้างค่ะ อันนี้หากมองดูภาพรวมอาจมองออกมาได้หลายสไตล์แต่ที่ดูโดดเด่นสุดคงเป็น English country นี่แหละค่ะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ก็จัดแบบผู้ดีอังกฤษยุคเก่า พร้อมหน้าต่างมองวิวสวนนั่งจิบชายามเช้าคงฟินแบบอธิบายไม่ถูก
ส่วนของตกแต่งก็จัดเต็มค่ะ ทั้งกระจกพร้อมกวางโชว์หัวแบบติดผนัง รวมถึงแจกันดอกไม้ ภาพวาดกระต่ายและรูปปั้นกวางผู้ชายที่ยืนคู่กัน ทุกอย่างถูกจัดวางมาอย่างลงตัว บอกเลยว่าพี่เจ้าของบ้านรังสรรค์ปั้นแต่งแบบใช้จินตนาการและความชอบแบบส่วนตัวได้ออกมาดีไม่แพ้อินทีเรียเลยแหละค่ะ
14. การตกแต่งบ้านแบบ Warm & Cozy - วอร์ม แอนด์ โคซี่
สำหรับสไตล์นี้บอกเลยว่าเป็นอะไรที่แต่งง่ายแถมน่าอยู่ แต่แถบประเทศที่อากาศหนาวก็จะพบเห็นการแต่งสไตล์นี้ได้มากกว่าเพราะเค้าต้องการแต่งให้บ้านดูอบอุ่นนั้นเอง ทุกอย่างในห้องจะเน้นโทนธรรมชาติ ดูสบายตา แนว Earth tone ของแต่งห้องไม่ต้องเยอะเอาเท่าที่จำเป็นแต่มองภาพรวมแล้วออกมาดูดีแค่นั้นพอค่ะ
15. การตกแต่งบ้านแบบ colorful style - คัลเลอร์ฟูล สไตล์
หลายคนอาจกลัวการแต่งแนวนี้เพราะขาดความมั่นใจ กลัวพลาด กลัวอยู่แล้วเบื่อ แต่ความจริงแล้วการเล่นหลายสีแต่เลือกให้ลงตัวได้แบบไม่ต้องดูเยอะก็ทำได้แบบห้องนี้เลยค่ะ หากเลือกเล่นเฟอร์นิเจอร์เราก็ต้องลดสีของผนังลงโดยใช้เป็นโทนสีครีมหรือสีขาวหากไม่ชอบอาจเป็นแนวโทนสีพาสเทลได้ค่ะ ส่วนเฟอร์นิเจอร์เราก็จัดเต็มเลยค่ะ ทั้งสีแดงสีเหลืองตามชอบโคมไฟสีดำ ผ้าม่านลายเส้น พร้อมเพ้นผนังแค่นี้ก็ได้ห้องคัลเลอร์ฟูลแต่ดูดีแล้วล่ะค่ะ เพิ่มเติมอีกนิดหากไม่คิดเพ้นผนังก็ลองไปดู การแต่งผนังด้วยกรอบรูป ให้ดูเก๋ มีสไตล์ เผื่อใช้ทดแทนกันได้
16. การตกแต่งบ้านแบบ Beach House Style - บีช เฮาท์ สไตล์
อาจเป็นสไตล์ห้องในฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะการจะมีบ้านพักตากอากาศสักหลังคงเป็นเรื่องยาก แต่วันนี้เราสามารถแต่งเองได้ค่ะ เพียงลงของทุกอย่างในห้องให้เป็นบรรยากาศเดียวกันแค่นี้ก็เหมือนนอนบ้านติดทะเลกันแล้ว ส่วนเพื่อนๆที่กำลังจะเริ่มแต่ไม่รู้ว่าจะลงของแต่งอะไรบ้างงานนี้มีแนะนำให้กดเข้าไปดูก่อนเลือกซื้อเลยค่ะ 8 ไอเทม : ของแต่งบ้านแนวทะเล แต่งแล้วเก๋เหมือนอยู่ชายหาด
17. การตกแต่งบ้านแบบ Post Modern Style – โพสต์ โมเดิร์น สไตล์
สำหรับหลังนี้บอกเลยว่าเน้นความเก๋ตามแบบฉบับของ Post Modern Style (โพสต์ โมเดิร์น สไตล์) ที่จะปฏิเสธเรื่องความสมบูรณ์สูงสุด ไม่มีศูนย์กลางความเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีแบบแผน
การตกแต่งสามารถทำได้อย่างหลากหลายโดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น โพสต์ โมเดิร์น คือการตกแต่งห้อง หรือออกแบบใหม่ที่ไม่ใช่ทั้ง Modern Style และ Classic Style แต่การตกแต่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างทั้งสองรูปแบบนั้นเอง
18. การตกแต่งบ้านแบบ Art Deco Style - อาร์ตเดคโค
อาร์ตเดคโค (Art Deco Style) คือศิลปะที่มีผลต่อการออกแบบตกแต่งสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน เกิดขึ้นช่วงศตวรรษที่ 20s ในประเทศฝรั่งเศส และเริ่มเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางโดยสไตล์นี้มีการใช้สีสันที่สว่างสดใส เส้นสายอ่อนช้อย ซึ่งมีสไตล์ที่หรูหราสง่างามผสมผสานความทันสมัยของแต่ละยุค
ซึ่งโทนสีของการแต่งแนว อาร์ตเดคโค จะใช้สี เช่นสีเบจ ครีม น้ำตาล หรือขาว-ดำ แต่ในปัจจุบันสามารถนำสีสันที่สดใสก็มามิกซ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวมรกต สีเหลือง สีแดงสด สีน้ำเงิน หรือสีแบบโลหะเช่น สีทอง เงิน หรือเทาโดยเฉดสีเหล่านี้นอกจากจะเป็นที่นิยมอย่างมากแล้ว ยังช่วยให้การตกแต่งบ้านดูมีสเน่ห์สะท้อนความเป็นศิลปะได้เป็นอย่างดี
19. การตกแต่งบ้านแบบ Thai Style – ไทยสไตล์
เกือบถึงสไตล์สุดท้ายกันแล้ว ซึ่งการแต่งสไตล์ไทยๆบอกเลยว่าเริ่มหาอยากขึ้นทุกทีเนื่องจากบ้านจัดสรรทำมาให้ครบพร้อมอยู่ แต่ถ้าหากชอบ ภายนอกทำไม่ได้ก็อย่าลืมมาปรับภายในกันนะคะ
อาจทำแบบไทยประยุกต์ เฟอร์งานไม้หรือบิวอินงานแกะสลักที่แสดงถึงศิลปะวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ในแบบไทยที่ผสมชีวิสมัยใหม่เข้าไปอยู่ร่วมกันนั่นเอง
20. การตกแต่งบ้านแบบ Zen style – เซนสไตล์
ปิดท้ายกันด้วยการตกแต่งบ้านในรูปแบบของ Zen style เอาใจคนที่รักความสงบเรียบง่าย การแต่งสไตล์นี้จึงอยู่ที่การนำเอาวัสดุธรรมชาติมาใช้ในการตกแต่งบ้านเป็นหลักนั่นเอง ที่สำคัญต้องให้ความรู้สึกที่เปิดกว้างของพื้นที่
และตัดความซับซ้อนของรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป เน้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ในโทนสีเรียบง่าย และใช้ลวดลายที่จำกัด ในขณะเดียวกัน ต้องมีแสงสว่างที่เกิดจากธรรมชาติ ส่องเข้ามาภายในบ้านให้ ดูโปร่ง โล่ง และสบายตายิ่งขึ้น
