รับสร้างตึกสร้างโกดัง 2

หมวดหมู่สินค้า: รับสร้างตึกสร้างโกดัง
STD Serve บริษัทรับสร้างตึกสร้างโกดัง ราคาถูก รับประกันคุณภาพทั่วจังหวัด รับติดตั้ง ซ่อมแซม ออกแบบงานก่อสร้าง สร้างตึก สร้างโกดัง ทุกรูปแบบ ศูนย์รวมสินค้างานก่อสร้าง โดยทีมวิศวกรและช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง ออกแบบให้คำแนะนำ ก่อสร้าง สร้างตึก สร้างโกดัง ออกแบบ บิ้วอิน ต่อเติม ตกแต่งภายในครบวงจร รวมถึงการปรับปรุง-รีโนเวท โรงงานขนาดเล็ก-ใหญ่ โกดัง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ออฟฟิศหรือบริษัท รวมถึงดูแล ซ่อมแซม ประเมินราคา ตามงบประมาณ รับประกันงานติดตั้ง ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ ในราคาถูกที่เป็นกันเอง

19 กรกฎาคม 2566

ผู้ชม 52 ผู้ชม

รับสร้างตึกสร้างโกดัง 

ก่อนสร้างบ้านต้องทำความเข้าใจ 10 ข้อ
 
ดังนั้นก่อนที่เราจะสร้างบ้านในฝันของเราซักหลัง เราก็ควรจะเข้าใจความต้องการของตัวเอง รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต่างๆ ที่จะทำให้บ้านของเราเป็นเหมือนที่พักกายและที่พักใจ ในยามที่เราพักจากความเหน็ดเหนื่อยของการงานประจำอย่างแท้จริง
วันนี้เราจึงขอเสนอข้อคิดที่ คนอยากมีบ้านทุกคนควรรู้ไว้ เพื่อให้บ้านของเราออกมาเหมือนที่ฝันไว้ มากที่สุดและตอบโจทย์ทุกเรื่องและทุกคนในบ้านได้อย่างครบถ้วนครับ โดยจะสรุปออกมาแบบคร่าวๆ 10 ข้อด้วยกัน ตามมาดูกันครับ  รับสร้างตึกสร้างโกดัง 
1. สถานที่ตั้งบ้าน ความสำคัญของสถานที่ตั้งบ้านนั้นเป็นความสำคัญอันดับแรกที่เราต้องคิดก่อนจะสร้างบ้าน เนื่องจากเราจำเป็นต้องคิดถึงการเดินทางระหว่าง บ้านไปยัง ที่ทำงาน,โรงเรียน ,ตลาด,ศุนย์การค้า,สถานีรถไฟฟ้า,ราคาที่ดิน  เป็นต้น ในสมัยก่อนทำเลที่ดีคือทำเลที่ต้องอยู่กลางเมืองเนื่องจากระบบรถสาธารณะยังไม่ครอบคลุมเหมือนอย่างปัจจุบัน ทำให้ผู้คนต่างก็ไปกระจุกกันอยู่ในเมืองเพียงอย่างเดียว ผิดกับปัจจุบันที่ทำเลที่ดีคือทำเลที่อยู่ไกล้รถไฟฟ้า, ก่อนที่เราจะคิดถึงการสร้างบ้านเราจึงควรมองหาบริเวณที่เราสามาถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ได้อย่างสะดวกที่สุด รวมถึงความปลอดภัยของย่านที่อยู่ที่ต้องไม่ดูเปลี่ยวจนเกินไป ในเวลากลางคืนอีกด้วย เช่นการซื้อบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านอาจจะรู้สึกอุ่นใจกว่าการสร้างบ้านเดียวที่แต่ละหลังตั้งอยู่ห่างกันเยอะๆเป็นต้น และอย่าคาดหวังกับโครงการต่างๆที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่หรือเกิดจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้เช่น บริเวณนั้นจะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆผ่าน ทางด่วน หรือ ถนนหนทางผ่าน เพราะเราไม่อาจรับรองได้ว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่(นอกจากการซื้อเพื่อเก็งกำไร) ควรเลือกจากสภาพปัจจุบันที่เหมาะสมที่สุด จะดีกว่าครับ
 
2. จะถมดินสูงแค่ไหนดีนะ อันนี้เป็นคำถามยอดฮิตก่อนการสร้างบ้านเลยทีเดียว บางคนบอก 50 ซม บ้างก็ว่า 30 ซม ก็พอแล้วบางคนบอก 1 เมตรไปเลย แล้วจริงๆมันควรถมเท่าไหร่หละ คำตอบของเรื่องนี้คือ แล้วแต่ความชอบครับไม่มีการกำหนดที่แน่นอนเพียงแต่มันจะต้องสูงกว่าระดับถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางหน้าบ้านเรา ประมาณ 50 ซม ก็เพียงพอ แต่ถ้าถนนหน้าบ้านเป็นถนนดินแดงก็ให้เพิ่มความสูงของระดับดินถมเป็น 1 ม.เพื่อเป็นการรองรับความสูงของถนนที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการลาดยางหรือทำถนนคอนกรีตในอนาคตนั้นเอง  อีกปัจจัยนึงคือระดับน้ำท่วมสูงสุดในบริเวณนั้น ถ้าสามารถหาข้อมูลได้เราก็ควรถมที่ดินให้สูงกว่าระดับดังกล่าวประมาณ 50 ซม.ขึ้นไป
 
การถมดินเพื่อสร้างบ้านเจ้าของบ้านจำเป็นต้องเผื่อการยุบตัวของดินด้วยนะครับ คือเพื่มปริมาณดินถมสูงขึ้นไปอีก 30 % เพื่อเผื่อให้ดินได้เซ็ตตัวหรือยุบตัว นั้นเอง เช่น จะถมดินสูง 50 ซม แต่ให้ถมดินไว้ที่ระดับ65 ซมนั้นเอง และควรถมดินไว้ก่อนการสร้างบ้านอย่างน้อย 4-6 เดือนยิ่งทิ้งไว้ผ่านหน้าฝนซักครั้งจะยิ่งทำให้ดินแน่นมากขึ้นทำให้ลดปัญหาดินทรุดหลังสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี 
 
3. ทิศทางแดดลม กับ การวางตำแหน่งบ้าน หลายๆ คนอาจจะคิดว่าไอ้เรื่องพวกนี้ มันจะสำคัญอะไรมากมายนักจะปลูกบ้านตรงไหนมันก็มีลมทั้งนั้นแหละ และที่สำคัญเราก็เปิดแอร์ทั้งวันอยู่แล้วไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล ใครกำลังมีความคิดแบบนี้มั้งครับ ถ้ามีแนะนำว่าให้อ่านหัวข้อนี้ก่อนแล้วค่อยมาคิดอีกทีนะครับ
ทำไมต้องดูทิศทางแดด-ลม ก่อนการวางตำแหน่งบ้าน ก็เพราะว่าเราคงไม่อยากนอนในห้องนอนที่แสนจะร้อนในตอนกลางคืนหรือต้องอุดอู้อึดอัดอยู่ในบ้านที่ไม่มีลมระบายเลย เรื่องพวกนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน มีข้อสังเกตุหลายอย่างในการวางตำแหน่งบ้านเพื่อให้บ้านทั้งหลังเป็นบ้านที่อยู่อย่างสบาย มีความสุข และประหยัดพลังงาน
 
 
ปกติแสงแดดของบ้านเราจะวิ่งเป็นแนวตะวันออกแล้วอ้อมโค้งไปทางใต้ก่อนจะตกในทิศตะวันตก จะทำให้ทิศใต้ไปจนถึงทิศตะวันตกได้รับแสงมากที่สุดของวันคือตั้งแต่หลังเที่ยงไปจนถึงห้าโมงเย็น ด้านนี้จึงควรเป็นส่วนหลังบ้านและส่วนซักล้างหรือกิจกรรมอื่นที่ต้องการแสงจำนวนมากๆ ส่วนทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงอ่อนๆในตอนเช้าและแสงจะแรงมากเพียงแค่ช่วง 10 โมงเช้าจนถึงเที่ยงซึ่งก็เพียงแค่ 3 ชม ยิ่งทิศเหนือแล้วยิ่งได้รับแดดน้อยที่สุด 2 ด้านนี้จึงเหมาจะวางตำแหน่งของห้องพักผ่อนที่ต้องการแสงรบกวนน้อย เช่น ห้องนอนและห้องนั่งเล่น 
เรานิยมวางแนวด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางทิศทางรับแดด เพื่อให้ผนังที่รับแดดมีน้อยที่สุด ทำให้ผนังสามาถดูดกลืนความร้อนในปริมาณน้อยและทำให้ภายในบ้านไม่ร้อนจนเกินไปในเวลากลางคืน เพราะธรรมชาติของผนังปูนนั้นจะดูดความร้อนเมื่อแดดส่องและจะถ่ายเทความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ฉะนั้นถ้าผนังบ้านถูกแดดตะวันตกน้อยก็จะทำให้ความร้อนที่จะถ่ายออกมาเวลากลางคืนมีน้อยเช่นกัน
 
ส่วนลมนั้นลมประจำฤดูของบ้านเราจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะพัดพาลมหนาวจากจีนมาในช่วงหน้าหนาว และ จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาความชุ่มชื้นจากทะเลมาในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน บ้านที่ดีด้านยาวของบ้านจึงควรหันเข้าหาทิศทางลมเพื่อให้ลมธรรมชาติพัดเข้าตัวบ้านเพื่อระบายความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุดและส่งผลให้ประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเป็นต้น
 
4. รูปแบบและราคาประเมินการก่อสร้างบ้าน รูปแบบบ้านมีหลากหลายแบบให้เลือกตามรสนิยมและความชอบส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่รูปแบบที่มีความซับซ้อนมากอย่างแบบ บ้านเรือนไทยของเราเองที่มีความซับซ้อนทั้งรูปแบบและขั้นตอนในการก่อสร้างที่ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญสูงมาก หรือแบบเรียบง่ายสมัยใหม่แบบ Modern Style ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากนักแต่เน้นความเนียบเป็นหลัก เรื่องกระบวนการก่อสร้างนี้แหละที่ทำให้บ้านแต่ละรูปแบบบ้านราคาค่าตัวที่แตกต่างกันออกไป
 
5. ความต้องการพื้นฐานของเจ้าของบ้าน การที่เราจะสร้างบ้านซักหลังนั้น เราจำเป็นต้องรู้ซะก่อนว่าเราต้องการอะไร?? บ้านหลังใหญ่แค่ไหน อยู่กันกี่คน มีผู้สูงอายุไหม ต้องการรูปแบบบ้านแบบไหน มีรถยนต์กี่คัน ต้องการห้องนั้งเล่นใหญ่ๆ หรือ ต้องการห้องน้ำแบบใหญ่โตโอลาน หรือไม่ ....บลาๆๆๆๆ ทั้งหมดนั้นเราเรียกว่าความต้องการพื้นฐานในการออกแบบบ้านครับ เราต้องตอบตัวเองกับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ก่อนจึงจะสามารถให้ผู้ออกแบบสร้างบ้านในฝันออกมาตามความต้องการเราได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง อาจทำเป็นเช็คลิสต์ ง่ายๆ ไปเดินดูบ้านตัวอย่างตามโครงการก็ได้ ชอบอะไรก็จดไว้ ไม่ต้องรีบเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆแล้วค่อยๆสรุปออกมาเป็นข้อๆให้ผู้ออกแบบ ในขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้น
 
6. การวางตำแหน่งห้องต่างๆ เคยสงสัยกันไหมครับ ว่าทำไมเข้าบ้านต้องเจอห้องรับแขกก่อนทำไมไม่เข้ามาแล้วเจอห้องนอนเลยนะมันคงดีเนอะ แต่ถ้าขืนทำแบบนั้นจริงๆ ก็คงจะโดนใครต่อใครประณามได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ถ้าเราทำแบบนั้นกับคอนโดกลับมองว่ามันก็ปกติก็ห้องมันมีพื้นที่จำกัดนี้ครับ สำหรับบ้านแล้วเราควรเข้าบ้านมาเจอห้องโถงหรือห้องรับแขกก่อนแล้วจึงแยกออกไปเป็นห้องนอน ห้องอาหาร และ ครัว รวมถึงห้องน้ำที่ต้องเข้าถึงง่ายแต่มิดชิด 
การวางผังบ้านแบบนี้เราจะเรียกว่าการจัดโซนนิ่งบ้าน โดยเราจะแบ่งเป็น
- ส่วนสาธารณะ เช่น โถงทางเข้า ห้องรับแขก ห้องทานอาหาร เป็นต้น ห้องเหล่านี้ทุกคนในบ้านรวมทั้งแขกที่มาบ้านจะสามารถเข้าถึงได้เหมือนๆกัน
- ส่วนกึ่งสาธารณะ เช่น ห้องคาราโอเกะ ห้องนั้งเล่น ห้องพระ เป็นต้น ห้องเหล่านี้ทุกคนในบ้านเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้ 
- ส่วนที่เป็นส่วนตัว เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน เป็นต้น ห้องเหล่านี้มีเพียงเจ้าของห้องและสมาชิคบางคนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูง
 
7. ทิศทางการวางบันได ถ้ามองเรื่องนี้ในแง่ของฮวงจุ้ย เค้าก็จะบอกว่าอย่าหันบันไดบ้านไปทางทิศตะวันตกเพราะเป็นทิศที่เกียวกับคนตายและสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวงใครขืนหันบันไดไปทางนี้เอาว่าไม่ซวยอย่างไดก็อย่างนึงว่างั้น แต่ถ้าว่ากันตามหลักการออกแบบแล้วก็ไม่แนะนำให้หันบันไดไปทางทิศตะวันตกเช่นกันเนื่องจากทิศตะวันตกเป็นทิศที่มีแสงบ่ายค่อนข้างแรงอาจทำให้การใช้งานบันไดที่มีแสงบ่ายส่องตาอาจทำให้เจ้าของบ้านแสบตาจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้นั้นเอง แต่ถ้าจำเป็นต้องวางก็ไม่ควรให้ผนังด้านที่บันไดมุ่งไปหานั้นมีแสงส่องผ่านมาได้ โดยอาจเปลี่ยนเป็นการนำแสงธรรมชาติลงมาจากด้านบนเพดานแทนก็ได้
 
8. ความสูงลูกตั้ง ลูกนอน และ จำนวนขั้นบันได เรื่องของความสูงของลูกตั้งลูกนอนบันไดนั้นมีข้อกำหนดอยู่แล้วในกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 ผู้ออกแบบทุกท่านทราบเป็นอย่างดี คือลูกตั้งไม่ควรสูงเกิน 20 ซม และกว้างไม่น้อยกว่า 22 ซม.ตัวเลขดังกล่าวใช้สำหรับบ้านพักอาศัยทั้วไป ซึงเป็นความสูงและความกว้างที่ผ่านการศึกษามาแล้วว่าเหมาะสมที่สุด ส่วนจำนวนขั้นบันไดนั้นไม่ได้มีกฏหมายกำหนดไว้ แต่ตามความเชื่อของคนไทยคือบันไดต้องจบที่เลข คี่ เนื่องจาก เลขคี่เป็นเลขของคนเป็น ส่วนเลขคู่นั้นถือว่าเป็นเลขของคนตายนั้นเอง แต่ในความเป็นจริงควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งมากกว่า 
 
 
9. จะเผื่อความสูงฝ้าเพดานไว้เท่าไหร่ดี โดยปกติความสูงฝ้าโดยทั้งไป(วัดจากระดับพื้นถึงท้องฝ้า)ควรจะสูงไม่น้อยกว่า 2.40 ม.ซึ่งเป็นความสูงที่กำลังสบายไม่อึดอัดหรือรู้สึกโดนกด และประหยัดด้วย เอะ!ยังไง.....มันประหยัดยังไงกัน คำตอบก็คือปัจจุบันวัสดุกรุผนังส่วนใหญ่จะทำออกมาที่ตัวเลขรวมได้ 2.40 พอดีเช่น กระเบื้องขนาด 30ซม x 30ซม หากปู 8 แถวก็จะได้ความสูง 2.40 พอดี เพราะถ้าเราปูแค่ 7 แถวก็จะได้ความสูงฝ้าแค่ 2.10 ม.ซึ่งเป็นระดับฝ้าที่เตี้ยเกินไปนั้นเอง และยังทำให้กระเบื้องไม่เหลือเศษทิ้งให้เสียของ หากต้องกรุในปริมาณมากๆก็ช่วยลดงบในการซื้อวัสดุกรุผนังลงได้อีกเยอะเป็นต้น
 
10. ทิศทางการเปิดประตูภายในบ้าน อะไรนะเรื่องแบบนี้ก็ต้องมีหลักการด้วยเหรอมันจะเวอร์ไปไหม  ตอบได้ครับว่ามันสำคัณมาก เพราะถ้าเราติดตั้งประตูผิดทางอาจทำให้น้ำท่วมบ้านกันได้เลยทีเดียวนะครับ จะหาว่าไม่เตือน
เริ่มกันจากประตูหน้าบ้าน ประตูหน้าบ้านด้านที่จะต้องโดนแดดโดนฝนหรือฝนสาด จะต้องเปิดออกนอกบ้านเท่านั้น เพราะการเปิดออกจะบังคับให้บังใบของวงกบประตูเป็นตัวกันน้ำที่จะเข้าบ้านไปโดยปริยายและควรลดระดับพื้นที่ขอบล่างของประตูลงซัก 1 ซม เพื่อกันน้ำย้อนเข้าบ้านนั้นเอง และที่สำคัญคือประตูหน้าบ้านควรกว้างอย่างน้อย 90 ซม เพื่อเผื่อไว้สำหรับตอนขนของชิ้นใหญ่ๆ เข้าบ้านยิ่งเป็นประตูเปิดคู่ยิ่งดีเลย
 
STD House บริษัทรับสร้างตึกสร้างโกดัง ราคาถูก รับประกันคุณภาพทั่วจังหวัด
 
รับติดตั้ง ซ่อมแซม ออกแบบงานก่อสร้าง สร้างตึก สร้างโกดัง ทุกรูปแบบ
   ศูนย์รวมสินค้างานก่อสร้าง โดยทีมวิศวกรและช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง ออกแบบให้คำแนะนำ ก่อสร้าง สร้างตึก สร้างโกดัง ออกแบบ บิ้วอิน ต่อเติม ตกแต่งภายในครบวงจร รวมถึงการปรับปรุง-รีโนเวท โรงงานขนาดเล็ก-ใหญ่ โกดัง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ออฟฟิศหรือบริษัท รวมถึงดูแล ซ่อมแซม ประเมินราคา ตามงบประมาณ รับประกันงานติดตั้ง ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ ในราคาถูกที่เป็นกันเอง
Engine by shopup.com